【แบบแจ้งความประสงค์รับสลาก】กรรมตามสนองคนทำร้าย ‘พี่เตี้ย มช.’ ศาลตัดสินจำคุก 16 เดือนชดใช้ 1 แสนบาท | เดลินิวส์

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาตัดสินแก้ศาลชั้นต้นที่พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20 มาตรา 31 จำคุก 6 เดือน และข้อหาอื่นและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

กรรมตามสนองคนทำร้ายพี่เตี้ยมชศาลตัดสินจำคุกเดือนชดใช้แสนบาทเดลินิวส์

สำหรับในศาลอุทธรณ์แก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ อีกกระทงจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่เนื่องจากทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี จึงลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 12 เดือน และลดโทษจำคุก 6 เดือนฐานทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่มีเหตุสมควร ให้หนึ่งในสามเช่นกัน คงจำคุกในความผิดนี้ 4 เดือน รวมจำคุกจำเลย 16 เดือน ให้จำเลยชดใช้เงิน 100,000 บาทแก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นั้น

กรรมตามสนองคนทำร้ายพี่เตี้ยมชศาลตัดสินจำคุกเดือนชดใช้แสนบาทเดลินิวส์

ด้าน ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศ ไทย (TSPCA) แสดงความคิดเห็นส่วนตัวว่า ต้องขอชื่นชมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีทุกภาคส่วน โดยเฉพาะพนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ พนักงานสอบสวน ผู้เสียหาย เพจต่าง ๆ รวมทั้งสื่อมวลชน ที่ต่อสู้ และร่วมนำเสนอข่าวเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา ถือว่าผลคดีดังกล่าว จะเป็นอุทาหรณ์และบรรทัดฐานที่ดีที่เกี่ยวข้องกับการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร โดยคดีนี้มีเรื่องน่าศึกษา เช่น 1. การรวบรวมพยานหลักฐานแวดล้อมของคดีค่อนข้างชัดเจน เช่น ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมานั้น เชื่อมโยงข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญเข้าด้วยกัน เป็นเหตุเป็นผลตั้งแต่มูลเหตุจูงใจ ที่จำเลยประสงค์จะฆ่าพี่เตี้ย มช. ภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด ที่จำเลยเป็นผู้ขับรถจักรยานยนต์ไปรับและนำพี่เตี้ย มช. ออกจากมหาวิทยาลัยไปยังที่เกิดเหตุ มีพยานบุคคลยืนยันว่า เห็นจำเลยอยู่บริเวณที่พบซากพี่เตี้ย มช. รวมถึงพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจชันสูตรกะโหลกศีรษะสุนัข แล้วให้ความเห็นว่าพี่เตี้ย มช. “ตายด้วยสาเหตุถูกกระแทกอย่างแรงที่ด้านท้ายกะโหลกศีรษะ” ทั้งยังสอดคล้องกับความเห็นผู้เชี่ยวชาญ ที่ตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชนของรถจักรยานยนต์ ซึ่งไม่เป็นไปตามที่จำเลยกล่าวอ้าง พยานของจำเลยจึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะหักล้างพยานโจทก์ได้ ดังนั้น การที่จำเลยใช้วัตถุของแข็ง ไม่มีคม ทำร้ายตีกระแทกอย่างแรงบริเวณกะโหลกศีรษะส่วนท้ายทอยของพี่เตี้ย มช. จนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย จึงเป็นการกระทำใด ๆ ที่ทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมานทางร่างกายให้สัตว์นั้นตาย อันเป็นการกระทำผิดฐานทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควรตามโจทก์ฟ้อง 2. สำหรับความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ นั้นก็เป็นการพิจารณาโดยข้อกฎหมาย โดยว่าพี่เตี้ย มช. ใครเป็นเจ้าของ หรือเป็น “เจ้าของกรรมสิทธิ์” โดยมีการพิจารณาว่า “พี่เตี้ย มช. เป็นสุนัขมีคุณค่าสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ในลักษณะต่าง ๆ มีคุณค่าแก่สังคมยิ่งกว่า
สุนัขทั่วไป”

กรรมตามสนองคนทำร้ายพี่เตี้ยมชศาลตัดสินจำคุกเดือนชดใช้แสนบาทเดลินิวส์

ทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็มีเจตนาที่แจ้ง ในการดูแลจัดสวัสดิภาพสัตว์ผ่านโครงการต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยที่เป็นรูปธรรม ทั้งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล เรื่อง อาหาร น้ำดื่ม และทำความสะอาด มีการฉีดวัคซีนและฝังไมโครชิปประจำตัวสัตว์ พี่เตี้ย มช. สุนัขตัวนี้ จึงเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การกระทำของจำเลย ในการนำสุนัขออกจากมหาวิทยาลัย จึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป ถึงแม้จำเลยจะเอาไปทำร้ายจนตายก็ถือว่าจำเลยเอาไปด้วยเจตนาทุจริต จำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ ตามที่โจทก์ฟ้องอีกกระทงหนึ่ง และจำเลยต้องชดใช้ราคาสุนัขนี้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชดใช้ราคาเป็นเงิน 100,000 บาท อีกด้วย

กรรมตามสนองคนทำร้ายพี่เตี้ยมชศาลตัดสินจำคุกเดือนชดใช้แสนบาทเดลินิวส์

ดังนั้น คดีพี่เตี้ย มช. ผลรวมคดีในชั้นอุทธรณ์ ให้จำคุกจำเลยเป็นเวลา 16 เดือน ให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน 100,000 บาท แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นั้น จึงเป็นอุทาหรณ์ที่ดีสำหรับทุกคน ในการปฏิบัติต่อสัตว์ ที่ต้องคำนึงถึงคุณค่าของทุกชีวิต และควรปฏิบัติอย่างมีเมตตาธรรมต่อกัน และขอขอบคุณคำพิพากษาตัดสินดังกล่าว ที่จะสร้างบรรทัดฐานในการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป.

กรรมตามสนองคนทำร้ายพี่เตี้ยมชศาลตัดสินจำคุกเดือนชดใช้แสนบาทเดลินิวส์

คลิกอ่านบทความทั้งหมดได้ที่นี่

กรรมตามสนองคนทำร้ายพี่เตี้ยมชศาลตัดสินจำคุกเดือนชดใช้แสนบาทเดลินิวส์

很赞哦!（9449）